สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ ผนึกกำลัง ทันตแพทยสภา ยกเครื่องมาตรฐานทันตกรรมทั่วประเทศตั้งเป้า 1,200 แห่งใน 3 ปี
สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ ผนึกกำลัง ทันตแพทยสภา ยกเครื่องมาตรฐานทันตกรรมทั่วประเทศ ตั้งเป้า 1,200 แห่งใน 3 ปี
วันที่ 22 สิงหาคม 2568 สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ ร่วมกับ ทันตแพทยสภา เดินหน้าขับเคลื่อน "โครงการพัฒนามาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของบริการทันตกรรมและกระบวนการรับรอง (TDCA)" อย่างเต็มกำลัง พร้อมตั้งเป้าหมายให้มีสถานพยาบาลทันตกรรมทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมโครงการ 1,200 แห่ง ภายในระยะเวลา 3 ปี เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการให้มีคุณภาพและความปลอดภัยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนผู้รับบริการ
โครงการนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือครั้งสำคัญ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อกำหนดทิศทางของโครงการ โดยได้รับเกียรติจาก นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตน์วณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และเป็นการระดมสมองร่วมกันระหว่างองค์กรหลัก ได้แก่ สถาบันทันตกรรม, ทันตแพทยสภา, และตัวแทนทันตแพทย์จากเขตสุขภาพทั่วประเทศ
หัวใจสำคัญของโครงการนี้คือการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานการปฏิบัติงานทางคลินิกที่ชัดเจนและวัดผลได้ โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นอันดับแรก ตัวอย่างเกณฑ์ที่น่าสนใจ เช่น การกำหนดให้หน่วยบริการต้องมีระบบที่ทำให้ ยาและเวชภัณฑ์ฉุกเฉินถึงตัวผู้ป่วยภายใน 4 นาที, การส่งเสริมให้ ระบุตำแหน่งฟันที่จะถอนด้วย 2 วิธี เพื่อป้องกันความผิดพลาดอย่างเด็ดขาด รวมถึงการวางมาตรฐานการจัดการคุณภาพน้ำทั้งระบบน้ำดีและน้ำเสีย เพื่อควบคุมการติดเชื้ออย่างเข้มงวด
เพื่อให้มาตรฐานดังกล่าวถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการ ฯ ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างทีม ผู้เยี่ยมสำรวจ (Surveyor) ที่มีคุณภาพ โดยตั้งเป้าพัฒนาบุคลากรให้ได้ราว 200 คนทั่วประเทศ ผ่านเวิร์คช็อป เพื่อสร้างผู้ประเมินที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถให้คำแนะนำเชิงพัฒนาแก่สถานพยาบาลได้ ขณะเดียวกัน กระบวนการรับรองถูกออกแบบมาให้มีความโปร่งใสและเป็นกลาง และผลการประเมินจะผ่านการพิจารณาทั้งจากคณะกรรมการระดับเขตและระดับส่วนกลาง
โครงการ ฯ ยังได้มองถึงความท้าทายในทางปฏิบัติสำหรับคลินิก โดยเฉพาะภาระงานและค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้น จึงได้วางแนวทางสนับสนุนสถานพยาบาลเอกชน เช่น การสร้างเครือข่ายสำหรับการทดสอบสปอร์ (Spore Test) ในราคาที่เข้าถึงได้ และการพัฒนา Dashboard แบบ Real-time เพื่อให้หน่วยงานสามารถติดตามสถานะการประเมินของตนเองได้อย่างสะดวก
การขับเคลื่อนโครงการนี้อย่างรอบด้าน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการยกระดับวงการทันตกรรมของไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างหลักประกันว่าประชาชนทุกคนจะได้รับบริการทันตกรรมที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูงสุด